วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ตอนที่ 7 แขกคนแรก

7
แขกคนแรก



และแล้ววินาทีนี้ก็มาถึง เป็นเวลา 4 ทุ่มพอดี ไฟทุกดวงในร้านได้ถูกดับลง ร้านเหล้าที่แสนครึกครื้นมืดสนิท ลูกค้าแต่ละคนบ้างก็ตกใจ บ้างก็กรีดร้อง ด้วยนึกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เมื่อ sport light ดวงหนึ่ง ได้สาดแสงไปยังบุรุษซึ่งอยู่มุมห้อง ทุกคนต่างก็เข้าใจพ้องกันว่า สมาชิกใหม่ของโฮสต์แห่งนี้ได้ถูกเปิดตัวขึ้นแล้ว



เจ้าหนุ่มรูปร่างโปร่งบาง หัวส้ม ก้าวเดินอย่างมั่นใจมายังกลางฟลอร์โดยมีแสงจาก Sport light ช่วยนำทาง ยามเมื่อผมเค้าคลอล้อกับไฟ ยิ่งทำให้สีสันดูเด่นชัดสว่างขึ้นไปอีก ประกายตาระยิบระยับ ใบหน้าหวาน ปากคลี่ยิ้ม ฉายให้เห็นถึงความสดใสซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เพียงครู่ที่แลดูห่อเหี่ยว นี่คงต้องยกความดีความชอบให้กับคุณโฮสต์อันดับหนึ่งซึ่งแอบส่งสายตามาให้ และเกือบจะหลุดขำเมื่อมองกลับไปแล้วคนตัวเล็กดันทำเป็นแกล้งมองไม่เห็นซะอีก แทบจะรอไม่ไหวซะแล้วถึงรางวัลที่อยากได้จากเจ้าหนุ่มหัวเหลืองหลังเลิกงาน



เสียงดนตรีที่เปิดคลอกับบรรยากาศของร้านเหล้าหยุดลง ชายหนุ่มหันมองโดยรอบ ตอนนี้ทุกคนในร้านกำลังจับจ้องมาที่เขา



สวัสดีครับ ผมทงเฮ โฮสต์น้องใหม่ของที่นี่ ขอฝากตัวด้วยนะครับ



สิ้นสุดการแนะนำตัว ทงเฮโค้งน้อยๆ ตามมาด้วยเสียงปรบมือจากแขกที่ดังขึ้นพร้อมกับความสว่างไสวของแสงนีออน ถึงจะเป็นการเปิดตัวที่แสนจะธรรมดา แต่ด้วยความที่เป็นหนุ่มรูปงาม จึงสร้างความพึงพอใจได้ดีไม่น้อยกับแขกบางพวก ไม่ว่าแขกคนนั้นจะเป็นชายหรือหญิง พวกเขาต่างลุกฮือเข้าไปจองคิวซะจนวุ่นวายไปหมด ลำบากพี่จองซูผู้ยิ่งใหญ่ต้องมาคอยควบคุมให้อีก  แต่นั่นก็แค่แขกพวกแรก



ส่วนอีกพวกที่เหลือ



ทำเป็นอลังการ ที่แท้เจ้าหัวส้มน่าหมั่นไส้นั่น ก็เป็นโฮสต์เหมือนกับน้องฮยอกแจนี่เอง



ชายคนหนึ่งพูดขัดขึ้นสวนกระแส จากโต๊ะตัวหนึ่งในร้านที่มีคนนั่งอยู่ 3 คน ฮยอกแจที่นั่งอยู่ด้วยกันหันมองคนพูดที่ทำหน้าตาไม่ค่อยพอใจ แขกชาวต่างชาติขาประจำที่หลังๆเริ่มมาบ่อยจนเกินไปแล้ว คุณฮันคยองนั่นเอง



“Revelก็แปลกๆ ไอ้บ้านั่นเพิ่งมีเรื่องกับฉันไปเมื่อวานแท้ๆ ดันปล่อยให้มาทำงานอีก ที่นี่ไม่คิดจะสั่งสอนพนักงานของตัวเองบ้างรึไง



ฮันคยองบ่นอย่างหัวเสีย นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนแล้วยังแค้นใจไม่หาย



คุณเองก็เหมือนกัน เพิ่งเสียหน้ากลับไปเมื่อวานแท้ๆ แล้วทำไมยังกลับมาที่นี่อีกล่ะครับ



ฮยอกแจว่าเข้าบ้าง ถึงภาษาที่ใช้ด้วยจะออกทางการแต่เท่าที่ฟังเนื้อความแล้วกลับไม่ให้เกียรติแขกสักเท่าไร แม้ว่าคนถูกเหน็บจะชินเสียแล้วกับวาจาร้ายๆแบบนี้ แต่อีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกลับมีท่าทีขัดใจ



นี่น่ะหรอ ฮยอกแจ คนที่นายบอกว่าถูกอกถูกใจนักหนา



เขาถามขึ้นในที่สุดพลางมองไปยังโฮสต์หนุ่ม รู้สึกได้รางๆในใจว่าคนๆนี้หน้าตาคุ้นเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น เขากำลังไม่ชอบใจกับคำพูดของเจ้าโฮสต์คนนี้มากกว่า



ครับ ผมเอง



คนถูกเรียกชื่อตอบสั้นๆ หันไปมองชายหนุ่มเจ้าของเสียงคนนั้น ทันทีที่สบตากันก็เกิดอาการหวาดๆ รับรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถล้อเล่นด้วยได้



เออ ฉันลืมไปนี่น้องฮยอกแจของฉัน ส่วนนี่ฮีชอลเพื่อนสนิทของพี่เอง



ฮันคยองนึกขึ้นได้จึงแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน



ผมไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น



ฮยอกแจรีบบอกปัดทันที ชักเริ่มเบื่อแขกคนนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ แต่คนที่เบื่อไปแล้วเรียบร้อยเห็นจะเป็นอีกหนุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้วยกัน



เมื่อกี้นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่รึเปล่า!!!



ฮีชอลเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยเสียงดังๆ ไม่คิดจะทักทายอะไรกับเจ้าโฮสต์นี่ทั้งนั้น อย่าว่าแต่เรื่องทักทายเลย หน้าก็ไม่อยากจะมอง แถมยังอยากเดินหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้ซะอีก



ฮยอกแจของฉันงั้นหรอ?  ทำไมต้องพาฉันมาฟังเรื่องแบบนี้ด้วย



ก็กำลังว่าเจ้าหัวส้มที่ต่อยฉันเมื่อวานนี้น่ะสิ



ฮันคยองบอกชี้มือไปทางเจ้าตัวปัญหา ที่ตอนนี้มีกลุ่มคนเยอะๆบังไว้จนแทบมองไม่เห็น



อ้อ ไอ้หมอนี่เองหรอที่มีเรื่องกับนายเมื่อคืน



ก็ใช่น่ะสิ ฉันยังเจ็บไม่หายเลย



งั้นฉันจะไปจัดการมันให้เดี๋ยวนี้เลย



ฮีชอลบอก ทำท่าทางจะลุกขึ้น แต่เจ้าหนุ่มร่างเล็ก ก็ฉุดมือเขาไว้ซะก่อน และเหมือนว่าคุณฮีชอลคนนี้จะไม่ค่อยถูกใจเจ้าเด็กหัวเหลืองนี่อยู่ก่อนแล้ว เขาสะบัดมือนั้นออกอย่างแรงมีสีหน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันที



มีปัญหาอะไร!?”



ปล่อยเขาไปเถอะครับ ถ้าอยากจะทำอะไรก็มาทำกับผมแทน



ฮยอกแจตอบ ที่พูดไปแบบนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเก่งกล้ามาจากไหน หรือยอมตายแทนใครได้ แต่ปากมันดันพูดออกมาเองทันทีที่สบตากับฮีชอล ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคนๆนี้ถึงมีท่าทีไม่ค่อยชอบเขานัก ทั้งที่ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน



อย่ามาท้าฉันนะ!!!!



ฮีชอลตะโกน จนโต๊ะข้างๆเริ่มหันมอง กะจะไม่โมโหแล้วนะ แต่เจ้าโฮสต์นี่ยิ่งทำอะไรก็เหมือนยิ่งกระตุ้นให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา หรือว่านี่แหละมั้ง ที่เขาเรียกว่า ศัตรูหัวใจ



ฮีชอลใจเย็นๆก่อน



ฮันคยองที่เห็นว่าท่าทางไม่ค่อยดีรีบร้องห้าม แล้วดึงเพื่อนรักให้นั่งลงตามเดิม



เกือบไปแล้วเชียวฮยอกแจ = =



วันนี้ฉันอุตส่าห์พานายมารู้จักน้องฮยอกแจของฉัน ใจร่มๆหน่อยนะเพื่อน



ฮันคยองพูดพลางรินเหล้าให้เพื่อนสนิท ฮีชอลรับมากระดกเข้าปากอึกใหญ่ แต่ก็ยังจ้องไปแต่ที่โฮสต์ตัวเล็ก ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ



ฮยอกแจของฉันอีกแล้วหรอ มันจะอะไรกันนักกันหนาวะ!!!



แล้วนายทำไมไม่ดื่มด้วย พวกฉันจ้างมาให้นั่งดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้จ้างให้มาพูดประชดประชัน



ฮีชอลว่าขึ้นอย่างโมโห คนที่ไม่ชอบหน้ากัน ให้ตายยังไงก็จะคอยหาเรื่องกันอยู่เสมอ ฮยอกแจทำงานตรงนี้มานานจึงเข้าใจดี และชักจะเริ่มรู้สาเหตุที่คนๆนี้ชอบเหวี่ยงใส่เขาแล้ว



ผมไม่ดื่มครับ



โฮสต์หนุ่มตอบอย่างสงบ เพราะว่าทำงานแบบนี้ การระวังตัวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เขาไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลยสักครั้ง



แต่นายต้องดื่ม นายต้องทำตามที่แขกต้องการไม่ใช่รึไง!!!!



ฮีชอลร้องว่าเสียงดัง จนฮันคยองตกใจซะเอง กลัวว่าเพื่อนซี้จะโมโหขึ้นมาอีกรอบจึงรีบร้องปราม



ดื่มไม่เป็นก็ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันก็ดื่มกับนายอยู่แล้วทั้งคนนี่นา



ไม่เป็นไรหรอกครับคุณฮันคยอง ผมจะดื่มก็ได้แต่ว่าเราต้องเล่นเกมกัน” ฮยอกแจเสนอความเห็น ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์



เกมอะไรหรอ



ฮันคยองถามอย่างตื่นเต้น ตอนนี้หัวใจเริ่มพองโต นี่เป็นครั้งแรกที่โฮสต์ตัวเล็กคนนี้ชวนเขาเล่นเกมด้วย แต่แทบจะหุบยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบ



แข่งดวลกินเหล้า ถ้าคุณแพ้ก็กลับไปซะ



แล้วถ้าพี่ชนะล่ะ?”



เมื่อได้ฟังคำถาม ฮยอกแจยิ้มแล้วหันไปทางอีกคนที่นั่งไม่ออกความเห็นอยู่ตรงข้างๆนั้นแทน ชายหนุ่มใบหน้างดงาม แต่มีแววตาดุร้าย ที่นั่งทำสีหน้าปั้นยากอยู่ตอนนี้ เขาหัวเราะเบาๆเมื่อต้องสบตานั้นอีกครั้งก่อนจะตอบ



คืนนี้ผมจะยอมเป็นของคุณก็ได้ คุณฮันคยอง




----------------------------------------------------





คิ้วของเจ้าหนุ่มหัวส้มแทบจะผูกกันเป็นโบว์ เมื่อต้องมาพบกับแขกคนแรก ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเท่าไร แต่ไม่นึกว่าคนๆนี้จะมาในคืนนี้จริงๆ เจ้าบอสใหญ่คนนั้น ...คิม คิบอม



ลูกค้าคนแรกของฉัน ไม่น่าประทับใจเท่าไรแฮะ



ทงเฮว่าเสียงหน่ายๆ  ก่อนจะเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม ชักจะเข้าใจโลกเข้าไปทุกวันว่าความเส้นใหญ่นี่มันมีอยู่ทุกวงการจริงๆ



ทงเฮสะบัดหัวเมื่อมองไปยังคิบอม ผู้ชายคนนี้ดูก็รู้ว่าอายุพอๆกับเขา แต่ไม่รู้ทำไม ถึงหาความสดใสของคนวัยหนุ่มจากผู้ชายตรงหน้านี้ไม่ได้เลย หรือจะเป็นเพราะแหวนวงใหญ่ ซึ่งเหมาะกับผู้สูงวัยมากกว่า ที่ผู้ชายคนนี้ใส่ติดตัวมาด้วยกันนะ



= = รวยซะเปล่า ทำไมไม่จ้างสไตล์ลิสส่วนตัวฟะ!!!



ยังอวดดีเหมือนเดิมเลยนะ คุณจองซูไม่ได้สอนเรื่องมารยาทตอนอยู่กับแขกให้นายรึไง



คิบอมว่าขึ้นบ้างด้วยเสียงดุๆ แต่คำตอบที่ได้จากเจ้าตัวดีก็แสดงให้เห็นว่า คนๆนี้ไม่ได้เกรงกลัวเขาสักนิด



ฉันก็เขียนไว้ในสัญญาแล้วไงว่าจะยอมแขกเท่าที่ยอมได้ มันหมายความว่าฉันจะคุยดีกับแขกที่ฉันคิดว่าน่าจะญาติดีด้วยกันได้เท่านั้น และนั่น...ก็ไมใช่นาย



แม้ว่าวาจาของทงเฮจะแสบสันเพียงใด ก็มีแต่คำว่าถูกใจเท่านั้นที่ปรากฏออกมาให้คิบอมเห็น สายตาคมจ้องไปยังคนหน้าหวานที่เอาแต่มองข้ามหัวเขาไปข้างหลัง จนเขาเองต้องหันกลับไปมองเช่นกัน คนที่ทงเฮมองอยู่ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เป็นเพียงของเล่นชิ้นเก่าที่เขาเบื่อแล้วเท่านั้นเอง ลี ฮยอกแจ



สนใจของเล่นของฉันอยู่หรอคิบอมถามขึ้นเพื่อเรียกความสนใจ



ของเล่นอะไร” ทงเฮไม่เข้าใจจึงถามกลับ นึกสงสัยคนตรงหน้า



โตป่านนี้แล้ว ใครจะมาเล่นของเล่นอยู่อีก



ก็นั่นไง โฮสต์อันดับหนึ่ง ฮยอกแจไงล่ะ



คิบอมตอบพลางหมุนหัวแหวนวงใหญ่เล่น พูดจาร้ายกาจแต่ทำวางมาดด้วยท่าทางสบายๆแบบนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นบอสที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน ทงเฮคงเข้าไปชกซะให้หงาย



ฮยอกแจไม่ใช่ของเล่นของใคร



ทงเฮเถียงกลับ



หึ นายเพิ่งมาใหม่จะไปรู้อะไร ฮยอกแจน่ะแทบจะถวายตัวให้กับแขกทุกคนที่มาจองคิวเลยนะ คงเพราะว่าอยากจะประชดฉันที่ฉันไม่เล่นด้วย แต่ว่ายังไงซะฉันก็ไม่ได้สนหมอนั่นหรอก ตอนนี้คนที่ฉันสนใจคือนายต่างหาก



คิบอมว่าพลางจ้องเข้าไปในตาหวาน แต่คนถูกจ้องไม่มีความรู้สึกเคอะเขิน หรืออะไรในเชิงพิศวาสเลยสักนิด ก็เขาเกลียดเจ้าหมอนี่จะตาย ซ้ำร้ายยังมาว่าคนรัก (?) ของเขาอีก



ฮยอกแจที่เขารู้จักไม่ใช่แบบที่คิบอมพ่นพล่อยๆแกมหลงตัวเองออกมาแน่ๆ คนๆนั้นทั้งเล่นตัว ทั้งปากแข็ง มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เจ้าหนุ่มคนนี้ต้องยอมแขกไปซะทุกเรื่อง และที่แน่ๆสาเหตุมันต้องมาจากเจ้าบอสใหญ่คนนี้แน่นอน ทงเฮนึกย้อนไปยังเรื่องสัญญา 3 เดือนของตัวเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหรี่ตามองไปยังคนตรงหน้า



นายหลอกฮยอกแจ เรื่องสัญญาโฮสต์อะไรนั่นล่ะสิท่า



ทงเฮเกริ่นถามอย่างอยากรู้ เรื่องนี้อาจเป็นไปได้ ตัวเขาเองยังไม่เคยได้อ่านสัญญาตัวหนังสือเยอะๆของคิบอมเลย เพราะฉีกทิ้งไปซะก่อน



ฉันไม่ได้หลอก หมอนั่นเป็นหนูที่เข้ามาติดจั่นของฉันเอง มันช่วยไม่ได้จริงๆ ติดหนี้ฉันก็ต้องชดใช้ ฉัน ก็ให้เลือกแล้วว่าจะยอมเป็นของฉันคนเดียวอย่างสุขสบาย หรือว่าจะเป็นโฮสต์ที่ต้องทำตามความต้องการของแขกทุกเรื่อง



งั้นฉันว่าฮยอกแจคิดถูกแล้วล่ะ ใครมันจะไปอยากเป็นของๆนาย ขนลุกน่าดู



ทงเฮว่าทำหน้าแหยๆ



ว่าแต่ ...เจ้าหมอนี่มันไม่มีตัวเลือกอย่างอื่นให้บ้างรึไงฟะ!!!



แล้วสัญญาของฮยอกแจน่ะ จะหมดเมื่อไหร่



ไม่รู้สิ ก็คงต้องทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะขายไม่ออก ล่ะมั้ง



ฮะ!!!!???? นี่แก!!!!!!



คำตอบจากคิบอมทำให้เจ้าหนุ่มหัวส้มสบถออกมาเสียงดัง เขากระชากคอเสื้อของคนตรงหน้าแทบจะทันทีเมื่อได้ฟังจนจบ ร้ายกาจ คนๆนี้มันมันร้ายกาจเกินไปแล้ว



ถ้าอยากจะช่วยเจ้าหมอนั่น นายก็ยอมมาเป็นของฉันซะเองสิ



คิบอมว่าส่งยิ้มเหนือกว่าไปให้ ทงเฮรู้สึกสะอิดสะเอียนจนต้องผลักออกห่างจากตัว



กลับไปได้แล้วฉันจะรับแขกคนที่สอง!!!



ทงเฮลุกขึ้นตะโกนไล่ด้วยอารมณ์เดือดๆ เขาสงสารฮยอกแจจับใจ ไม่รู้ว่าต้องทนทำเรื่องแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว แต่ถึงจะไล่ไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าบอสใหญ่ยังคงนั่งยิ้มอยู่อีก



เป็นบ้าไปแล้วรึเปล่าเนี่ย?



ถ้านายหมายถึงแขกคนที่สอง …”



คิบอมพูดไม่จบ แต่ชูบัตรคิวขึ้นมาให้ดู เยอะแยะไปหมด เลข 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 และอีกมากมายภายในมือ ทงเฮแทบอยากกลั้นใจ เขาคงต้องทนอีกนานกับแขกคนนี้



ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ดื่มอะไรซะหน่อย แล้วนั่งลงเป็นเพื่อนฉันก่อน



คิบอมว่าพลางยื่นแก้วที่มีน้ำสีสันสดใสไปให้



ทงเฮนั่งลงอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ยังไงซะกินอะไรสักนิด ก็ยังดีกว่านั่งอยู่กับคนๆนี้เฉยๆ เจ้าหนุ่มหัวส้มรับน้ำมาดื่มไปจนหมดแก้ว ไม่รู้เลยว่า อีกคนได้ใส่อะไรบางอย่างลงไปในนั้นด้วย